วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558


สิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด










การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ






แบบประเมินความเครียด








โรคที่เกิดจากความเครียด




วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

10 อันดับ ประเทศที่ประชากรมีความทุกข์มากที่สุดในโลก


อันดับที่สาธารณรัฐแอฟริกากลางสาธารณรัฐแอฟริกากลางเป็นประเทศที่ได้คะแนนรวมต่ำสุด (อันดับที่ 142 จาก 142 ประเทศ) ภายใต้ดัชนี  ”Legatum Prosperity Index” ประจำปี 2012 นอกจากนี้ ยังอยู่ในอันดับต่ำสุดในหมวดการศึกษาอีกด้วย (ในภาพ:ประชาชนชาวแอฟริกากลางกำลังขนข้าวของหนีตายจากภัยสงคราม)



อันดับที่ 2 สาธารณรัฐคองโก ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 141 (จาก 142) แต่ได้คะแนนต่ำสุดในหมวดผู้ประกอบการและโอกาสในการ ดำเนินธุรกิจ กับหมวดสุขภาพ


อันดับที่ 3 สาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 140 แต่ได้คะแนนในหมวดการบริหาร/การปกครองเป็นอันดับที่ 141 และได้คะแนนในหมวดความปลอดภัยเป็นอันดับที่ 140



อันดับที่สาธารณรัฐชาดได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 139 แต่อยู่ในอันดับต่ำสุดในหมวดความปลอดภัย ขณะที่หมวดสุขภาพอยู่ในอันดับที่ 141 และหมวดการศึกษาอยู่ในอันดับที่ 140


อันดับที่ 5 สาธารณรัฐเฮติ ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 138 แต่ได้คะแนนในหมวดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 140 (แม้เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะผ่านไปนานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ปัจจุบันยังคงมีประชาชนชาวเฮติอาศัยอยู่ในเต็นท์ผู้ประสบภัยมากกว่า 3.5 แสนคน)


อันดับที่ 6 สาธารณรัฐบุรุนดี
บุรุนดี ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 137 แต่อยู่ในอันดับที่ 140 ในหมวดผู้ประกอบการและโอกาสในการดำเนินธุรกิจ (บุรุนดีเป็นประเทศเล็กและยากจนที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกา ทั้งยังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวันดาอีกด้วย)


อันดับที่ 7 สาธารณรัฐโตโก ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 136 แต่ได้คะแนนต่ำที่สุด (142) ในหมวดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคม (นอกจากโตโกจะมีปัญหาขัดแย้งทางการเมืองแล้ว ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองกำลังติดอาวุธ


อันดับที่ 8 สาธารณรัฐซิมบับเว ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 135 แต่ได้คะแนนเป็นอันดับต่ำที่สุด (142) ในหมวดเศรษฐกิจ และหมวดการบริหาร/การปกครอง



อันดับที่ 9 สาธารณรัฐเยเมน
เยเมนได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 134 แต่ได้คะแนนเป็นอันดับต่ำที่สุด (142) ในหมวดเสรีภาพส่วนบุคคล  (เยเมนเป็นประเทศในกลุ่มพัฒนาน้อยที่สุด และประสบปัญหาความยากจนมากที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มอาหรับ อีกทั้งยังมีอัตราการรู้หนังสือต่ำ เนื่องจากขาดเสถียรภาพทางการเมืองมายาวนาน)


อันดับที่ 10 สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปียได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 133 แต่ได้คะแนนในหมวดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมเป็นอันดับที่ 95 (ที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเอธิโอเปียเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถมภาคบริการก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยว ก่อสร้าง และการคมนาคม)

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558

  
10 ประเทศที่มีความสุขมากที่สุดของโลก



1.ประเทศเดนมาร์ก เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน จึงทำให้ประเทศนี้อบอวลไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ พร้อมกับสถาปัตยกรรมบ้านเรือนที่สวยงามมากมาย มีธรรมชาติที่น่าหลงใหลกระจายตัวอยู่รอบ ๆ ประเทศ มีอากาศบริสุทธิ์และบรรยากาศผ่อนคลาย ยิ่งประเทศนี้มีเบียร์คุณภาพเยี่ยมระดับโลก ยิ่งทำให้เดนมาร์กเป็นดินแดนที่โรแมนติกมากขึ้น มันจึงทำให้คนท้องถิ่นเหมือนกับได้พักผ่อนทุกวัน สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในสวีเดน อาทิ เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen), สะพาน Oresund, ปราสาท Egeskov เป็นต้น


2.ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนปกคลุมอย่างเทือกเขาจุงฟราว หรือทะเลสาบต่าง ๆ อีกทั้งเส้นทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ พร้อมกับอากาศที่บริสุทธิ์ นอกจากนี้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังโดดเด่นที่เป็นประเทศที่มีความเงียบสงบ ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย เป็นผู้นำทางด้านการผลิตนาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมทั้งของหวานที่เพิ่มความสุขอย่างช็อกโกแลตอีกด้วย นั่นจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนประเทศแห่งนี้ต่างตกหลุมรัก อาทิ ทะเลสาบเจนีวา, ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น, ปราสาทชิยอง (Chillon Castle), เซนต์ มอริตซ์ (St. Moritz), กรุงเจนีวา เป็นต้น




3. ประเทศไอซ์แลนด์
 ไอซ์แลนด์ เป็นดินแดนที่มีความหนาวเย็นแบบสุดขั้ว มีธรรมชาติอันน่าหลงใหล ทั้งภูเขาไฟ หิมะ แสงเหนือ น้ำตก เส้นทางเดินป่า ทะเลสาบ ฯลฯ เรียกได้ว่ามาเยือนไอซ์แลนด์ที่เดียวได้เที่ยวครบทุกรสชาติ คนท้องถิ่นมีมิตรไมตรี ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย ไม่มีสิ่งยั่วยุอย่างแหล่งช้อปปิ้งหรือสถานบันเทิงมากมาย จึงทำให้ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบ  สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่ง อาทิ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall), บ่อน้ำแร่บลู ลากูน, น้ำตก Skogafoss, ภูเขาไฟ Askja เป็นต้น


4. ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสวยงามจนน่าอิจฉามากที่สุด เป็นประเทศที่มีปรากฏการณ์อาทิตย์เที่ยงคืนให้ได้ชื่นชมทุกปี พร้อมทั้งมีแนวเทือกเขาสูงใหญ่และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติมากมายให้ได้ไปผจญภัย โดยเฉพาะฟยอร์ดต่าง ๆ โดยเฉพาะฟยอร์ดต่าง ๆ ทั้ง Lysefjord, Hardangerfjord, Sognefjord, Naeroyfjord, Geirangerfjord เป็นต้น ที่สร้างสรรค์ทะเลสาบท่ามกลางหน้าผาของภูเขาสูงชันได้อย่างงดงามที่สุด นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ



 


5. ประเทศแคนาดา
  ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ทางด้านทวีปอเมริกาเหนือ มีเนื้อที่ประมาณ 9,984,670 ตารางกิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีประชากรเพียงแค่ประมาณ 34,605,346 คน เท่านั้น และด้วยความที่แคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่ จึงทำให้แต่ละภูมิภาคมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งธรรมชาติที่หลากหลาย คนแคนาดาจึงได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติในทุกรูปแบบ รัฐบาลยังมีการจัดการเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ประชาชนมีรายรับและรายจ่ายที่สมดุล สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างครบครัน ไม่ว่าใครที่ได้ไปเยือนประเทศนี้ ต่างก็ต้องตกหลุมรักแคนาดากันทั้งนั้น ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ น้ำตกไนแองการา, อุทยานแห่งชาติแบมฟ์, เทือกเขาร็อกกี้, เกาะวิกตอเรีย, เมืองแวนคูเวอร์, เมืองเยลโลว์ไนฟ์ เป็นต้น


6. ประเทศฟินแลนด์
ฟินแลนด์ เป็นประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป มีพื้นที่ประมาณ 338,435 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชาชนเพียงแค่ 5,451,270 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก นั่นจึงทำให้คนฟินแลนด์ได้เสพธรรมชาติอันน่าทึ่งของฟินแลนด์อย่างเต็มที่ แต่ละเมืองเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมไปด้วยพืชพรรณนานาและสัตว์ป่าหลากหลายชนิด มีทะเลสาบที่ใสสะอาด กว้างใหญ่ บางเมืองสามารถมองเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือแสงใต้ได้อย่างชัดเจน ในช่วงหน้าร้อนยังมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์จนถึงเที่ยงคืน ส่วนหน้าหนาวประเทศแห่งนี้ก็จะกลายเป็นสถานที่ฮอตฮิตสำหรับการเล่นกีฬาฤดูหนาว และยังเป็นดินแดนต้นกำเนิดของซานตาคลอสด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฟินแลนด์สามารถมอบให้กับผู้คนทุกคน


7. ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้อย่างทิวลิป ที่สามารถสร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเมืองและหมู่บ้านที่น่ารักมากมาย บ้านเรือนต่าง ๆ ยังมีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า บางเมืองมีคลองเล็กคลองน้อยให้ได้พายเรือ หรือเส้นทางขี่จักรยาน ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบและอากาศที่เย็นสบาย พร้อมทั้งร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมืองรสชาติเยี่ยมและบรรยากาศดีเลิศไว้ให้ชาวเมืองได้มานั่งทานอาหารเพื่อผ่อนคลายกันอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อาทิ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม, สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ, จัตุรัสฟรีทโฮฟ และทุ่งกังหัน Kinderdijk เป็นต้น


8. ประเทศสวีเดน
 สวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญของทวีปยุโรป มีวัฒนธรรมอันโดดเด่นและบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์สวยงาม พร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม ภายในเมืองหลวง คือ กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) ยังเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองริมน้ำ พร้อมทั้งมีแกลลอรี่ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อคนท้องถิ่นได้อาศัยอยู่ในเมืองที่เงียบสงบเช่นสวีเดน จึงมีความสุขมากกว่าที่ไหน ๆ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตฮิต อาทิ ปราสาทคาลมาร์ (Kalmar Castle), วิหารลูเธอแรน (The Lund Cathedral), เมืองมัลโม (Malmo), พระราชวัง Drottningholm เป็นต้น


9. ประเทศนิวซีแลนด์
          แม้ว่าประเทศนิวซีแลนด์จะเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ คนท้องถิ่นมีมิตรไมตรี อยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง นอกจากจะเห็นวิถีของคนเมืองในสไตล์ยุโรปที่เรียบง่ายแล้ว ยังมีวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองอย่างเผ่าเมารีมาร่วมผสมผสานสร้างสีสันและความสุขให้เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้ด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ โอ๊คแลนด์ (Auckland) ถ้ำไวโตโมโกลว์วอร์ม (Waitomo Glowworm Caves), เมืองโรโตรัว (Rotorua), ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเมารี, ธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef Glacier), ธารน้ำแข็งฟ็อกซ์ (Fox Glacier), เมืองควีนสทาวน์ เป็นต้น


10. ประเทศออสเตรเลีย
มันจะดีแค่ไหนที่บ้านเกิดของตัวเองนั้นมีทุกสิ่งอย่างครบถ้วน ซึ่งประเทศออสเตรเลียก็เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หิมะ ใบไม้เปลี่ยนสี แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) แนวหน้าผาริมชายฝั่งทะเลอันงดงามเรียกว่า หน้าผาบันด้า (Bunda cliffs) ชายหาดขาวสะอาด (Hyams Beach) ภูเขาหินศักดิ์สิทธิ์อุลูรู (Uluru) ทะเลทรายเกรทวิคตอเรีย อุทยานแห่งชาติกว่า 500 แห่ง ฯลฯ อีกทั้งชีวิตในเมืองใหญ่ยังเรียบง่าย ไม่มีการแข่งขันมากมายเท่ากับเมืองหลวงในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย


วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

5 ผลไม้คลายเครียด 






1.ส้ม
   ส้มมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลว่าใครจะชอบแบบไหน ส้มเป็นผลไม้ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน มากน้อยแล้วแต่สายพันธ์ ซึ่งส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราได้ นั้นก็เพราะวิตามินซีที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายและต่อต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้




 2. กล้วย ผลไม้ง่ายๆ แต่ประโยชน์ของมันนั้นมากมาย เรียกได้ว่ากล้วยเป็นผลไม้สุดมหัศจรรย์ ในกล้วยนั้นมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย โดย มีทั้งคาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส โปรตีน วิตามินเอ และธาตุเหล็ก โดยการกินกล้วยจะให้ดีที่สุดคือกินตอนเช้าเพื่อจะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี และการกินกล้วยทุกวัน วันละ 2 ผล ถือเป็นสิ่งที่ดีและวิเศษมากๆ จะกล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้าก็กินได้ดีไม่เสียหาย มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่าการกินกล้วยวันละ 2 ลูกจะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายได้เท่ากับการออกกำลังกาย 90 นาทีเลยทีเดียว เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติรวมถึง 3 ชนิดเลยทีเดียวนั่นก็คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุคโทส ยิ่งผู้ที่มีอาการซึมเศร้า เครียด หงุดหงิด เมื่อกินกล้วยเข้าไปแล้วจะรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น เพราะกล้วยมีส่วนประกอบทริปโตฟาน (Tryptophan) โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็น
 เซโรโทนิน นอกจากนี้ กล้วยยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือนได้


3.องุ่น
องุ่นลูกเล็กๆ แต่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เป็นผลไม้บำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีเหมือนกับส้ม กินแล้วช่วยคลายเครียด มีการสร้างโดปามีน (dopamine) และอะดรีนาลิน (adrenalin) ซึ่งสารเคมีทั้งสองตัวช่วยในการกระตุ้นความกระฉับกระเฉงตื่นตัว กระชุ่มกระชวยทั้งกายและใจ ยิ่งกินองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆ แข็งแรงขึ้นได้ 

4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
เรียกได้ว่าทุกชนิดของตระกูลเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็น แบล็คเบอร์รี่, สตรอเบอรี่, แครนเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่ ไม่ว่าอะไรก็มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งผลไม้ประเภทนี้อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ สารเหล่านี้ จะช่วยลดอาการเครียดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีทั้งไฟเบอร์ โฟลิค แอซิด และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เวลามีเรื่องเครียด อารมณ์ไม่ดี ลองหาซื้อผลไม้พวกนี้มากินดู ก็ช่วยได้เป็นอย่างดี


5. มะพร้าว
มะพร้าวลูกกลมๆ มากไปด้วยสารพัดประโยชน์ รู้หรือไม่ว่า มะพร้าวมีกรดไขมันที่เรียกว่า Medium Chain Triglyceride ซึ่งเป็นกรดไขมันแบบพิเศษที่ช่วยทำให้อารมณ์ดีและบำรุงสมอง และมันจะไปสร้างพลังให้กับสมอง จนคุณรู้สึกสดชื่นและกระฉับกระเฉงแบบสุดๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการขับถ่าย แล้วยังช่วยขับไขมันที่มาจากอาหารชนิดอื่นอีกด้วย ดังนั้นคุณๆ ทั้งหลายอย่ามัวรีรอต้องรีบไปหาทานทั้งเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าวกัน จะได้อารมณ์ดี ไร้ความเครียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอเตือนไว้ว่า ต้องกินอย่างพอเหมาะพอดี ไม่มากจนเกิน 







การผ่อนคลายความเครียดโดยการนวด
และการคลายความเครียดในการทำงาน




















30 วิธีง่ายๆคลายเครียด ภายใน 1 เดือน



1. ดื่มชาเขียวเป็นประจำ จิบชาเขียวเป็นประจำทุกวันช่วยคุณให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบนิ่ง แม้จะอยู่ในสิ่งรายล้อมอันแสนจะวุ่นวาย แถมยังทำให้สุขภาพดีด้วยนะ
 2. ตามใจตัวเองบ้างอะไรบ้าง การได้ให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองก็เป็นความสุขทางใจอีกทางนึงนะ และยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย เช่น สาว ๆ หลายคน มักจะผ่อนคลายความเครียดด้วยการช้อปปิ้ง หรือหาของหวานอร่อย ๆ ทาน (ซึ่งก็มักจะได้ผลดีด้วยนะ)
3. หาหน้าจอสกรีนเซฟเวอร์ที่สบายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เราต้องจ้องมองมันทั้งวัน อาจทำให้คุณปวดตาได้ ดังนั้นควรจะหาสกรีนเซฟเวอร์ที่ดูแล้วคลายความเครียด เช่น ภาพท้องทะเลที่สวยงามยามเย็น ท้องฟ้าครามในวันที่อากาศดี ป่าเขียวอันแสนร่มรื่นย์ เป็นต้น
4. เก็บข้อมูลทางสุขภาพไว้ในที่ปลอดภัย สถานสุขภาพบางแห่งมีการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของครอบครัวออนไลน์ หรือแม้แต่ในมือถือของคุณเอง ซึ่งทันสมัยและรวมอยู่ในที่เดียวเพื่อความสะดวกในการเข้าไปเช็คประวัติการรักษา การแจ้งเตือนนัดหมายกับแพทย์ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เคยถามคุณหมอไป
 5. หันมาบริโภคโฮลเกรน โฮลเกรน หรือ "ธัญพืช" นั้นมีประโยชน์มากกว่าแป้งขาว แถมดีต่อสุขภาพ โดยธัญพืชจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมอย่างช้า ๆ และถูกปล่อยเป็นพลังงานออกมา ทั้งนี้เมื่อร่างกายย่อยอย่างช้า ๆ แล้ว จึงทำให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ช่างมีประโยชน์เหลือหลายจริง ๆ



6. เดินเท้าเปล่าบ้าง รู้หรือไม่ว่าการเดินเท้าเปล่าบนพื้นพรม สนามหญ้าหรือพื้นทรายบ้างเป็นการนวดเท้าแบบเบา ๆ วิธีหนึ่ง ลองเดินเท้าเปล่าสัก 10 นาที แล้วผ่อนคลาย ปล่อยใจให้สงบ ช่วยให้คลายเครียดได้
 7. บันทึกความกังวลในแต่ละวัน ลองพกกระดาษกับปากกาติดตัวไว้ แล้วลองสังเกตุและจดดูว่าวัน ๆนึง เรามีเรื่องกังวลกับสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวัน แล้วหันมาทบทวนว่าคุณเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป
8. หายใจลึก ๆ เมื่อเห็น "จุด"  เจ้าจุดกลม ๆ ช่วยลดความเครียดได้อย่างไร? หากคุณใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อวันลองกำหนดลมหายใจ โดยค่อย ๆ หายใจเข้าและหายใจลึก ๆ (เหมือนกับกำหนดลมหายใจนั่งสมาธิ) แค่นี้ก็ช่วยลดความเครียดได้ 

9. ออกกำลังกาย วิธีขจัดความเครียดโดยไม่ต้องลงทุน แค่ลงแรง เนื่องจากเวลาเราออกแรงให้เหงื่อออกร่างกายก็จะขับของเสียออกมาและยังช่วยเคลียร์หัวสมองให้โล่ง
 10. กินขนมขบเคี้ยว "เครียดน้อย 1 เม็ด เครียดมาก 2 เม็ด" หลายคนคงจำประโยคนี้จากโฆษณาถั่วชนิดหนึ่งได้ การกินขนมขบเคี้ยวช่วยลดความเครียดได้ เช่น ถั่ว เมล็ดพืชและช็อกโกแลตชิป กินสักเล็กน้อยคุณก็พอ เพราะหากกินมากไป ก็จะเครียดเพราะความอ้วนได้
 11. พูดอย่างนุ่มนวล ถ้าเราลองฝึกพูดให้นุ่มนวล ละมุนละไม ส่งผลให้ความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจและความเครียดลดลงได้
12. ระบายความรู้สึกผ่านตัวหนังสือ เมื่อรู้สึกเครียดก็ระบายมันออกมาเลย ไม่ต้องลงไม้ลงมือ แค่เขียนใส่กระดาษไป มันอาจจะไม่ได้ช่วยให้โกรธทันที แต่ทำให้ความเครียดลดลงได้
13. ร้องเพลงขณะอาบน้ำ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนทำมากที่สุดแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันทำให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น


  14. สัมผัสกลิ่นลาเวนเดอร์ เพียงจุดเทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ ในห้องนอน จะช่วยทำให้รู้สึกล่องลอราวกับอยู่ในสวนดอกลาเวนเดอร์แห่งความหอม ลืมชีวิตที่แสนวุ่นวายไปเลบ
 15. ดูหนัง วิธีบำบัดความเครียดอีกวิธีหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักทำคือ การดูหนัง ไม่ว่าจะดูที่บ้านหรือโรงหนัง เพราะมันช่วยให้เราหลีกหนีความจริงและเรื่องเครียดไปได้
 16. เข้านอนเร็ว หลายคนคงรู้สึกหงุดหงิดในยามเช้าเวลานาฬิกาปลุก แล้วต้องตื่นขึ้นมากดหลายครั้งๆ นั้นเพราะคุณนอนดึก จึงไม่อยากตื่นในตอนเช้า เพียงแค่คุณปรับเวลาให้นอนเร็วขึ้น เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายก็พร้อมรับวันใหม่อย่างสดชื่น
 17. บอกเล่าเรื่องดี ๆ ให้คนอื่นฟัง พูดคุยกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับคนรู้จัก โดยเล่าในเชิงบวกและกล่าวชื่นชมยินดีพวกเขา สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันและช่วยลดความตึงเครียดลงได้
 


18. กุมมือ เคยรู้สึกไหมว่าตอนคุณไม่สบายใจ แล้วมีคนคอยจับมือและอยู่เคียงข้าง ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ทั้งที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจากเรื่องที่เครียด นั้นเป็นเพราะการสัมผัสส่งผลบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้น
19. ประดิษฐ์งานฝีมือ เชื่อไหมว่าการทำกิจกรรมอย่าง การถักไหมพรมหรือทำหนังสือ โดยใช้เวลาแค่ 20 นาที ช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้นและให้ความสนใจไปกับสิ่งที่ทำให้คุณเพลิดเพลิน ลืมความตึงเครียดไปได้ชั่วขณะ


20. ขยันให้เหมือนผึ้ง หาอะไรทำเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้านทำ เช่น กวาดบ้านถูบ้าน ทำความสะอาดลิ้นชัก จะได้ไม่อยู่ว่างเฉยๆ และดูมีคุณค่า ซึ่งสิ่งที่เลือกทำควรจะเป็นงานเบาๆ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที เพราะเดี๋ยวจะเหนื่อยจนเกินไปแล้วเครียด
21. เปิดรูปภาพคนที่คุณรัก บนโต๊ะทำงานของคนส่วนใหญ่ของคนทำงาน มักมีภาพของครอบครัวหรือคนที่รักอยู่เสมอ นั้นเพราะว่าเวลาได้มองรูปภาพคนที่คุณรัก จะทำให้มีกำลังใจที่ดีขึ้น
22. จิบโกโก้ร้อน คงเป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนชอบ เพราะนอกจากมีรสชาติ หวาน มัน ที่อร่อยแล้ว กลิ่นหอมๆ ของโกโก้ช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย
23. หาเวลาไปนวด  การนวดนี้เป็นการนวดเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสบายขึ้น จากการทำงานหรือออกกำลังกาย โดยใช้เวลาสัก 5 นาทีทุกวัน จะนวดเองหรือหาคนช่วยก็ได้ 


24. มีความสุขกับชั่วโมงการอาบน้ำ ช่วงเวลาในการอาบน้ำ นับเป็นการพักผ่อนชนิดหนึ่ง แต่หลายคนมักจะรีบๆ อาบให้เสร็จเร็วๆ โดยหารู้ไม่ว่าพลาดช่วงเวลาในการพักผ่อนอีกวิธีหนึ่งไปเสียแล้ว อาจจะสัก 2 - 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ใช้เวลาอาบน้ำสัก 20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้พักบ้าง
25. ขัดตัว สมัยนี้การขัดตัวกำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะนอกจากจะเป็นการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ยังทำให้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น
26. การหัวเราะเป็นยาวิเศษ "หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใส" คำกล่าวนี้คงไม่เกินจริงไปนัก เพราะทุกครั้งที่เราหัวเราะ ร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาและยังเป็นวิธการชะลอความแก่อีกทาง
 27. ลิสต์เรื่องที่ทำให้มีความสุข หากคุณต้องติดอยู่ในสภาวะรถติดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณเครียด อย่าใส่ใจกับมัน แล้วหันมานึกถึงเรื่องราวที่ทำให้คุณมีความสุขสัก 5 อย่างแล้วลิสต์ออกมา นั่นจะทำให้คุณมองวันทั้งวันที่เหลือของคุณในแง่ดีมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่จดไว้ก็จะคอยเตือนว่าคุณมีเรื่องดีดีอะไรเกิดขึ้นบ้างในแต่ละวัน
 28. อ่านกวีโปรดของคุณ ลองอ่านบทกวีเล่มโปรดแล้วอ่านออกเสียงออกมาดัง ๆ แล้วทอดอารมณ์ จินตนาการตามบทกวีอันแสนหวานนั้นไปกับมัน เพราะการอ่านบทกวีจะช่วยให้คุณค่อย ๆ หายใจเป็นจังหวะ อย่างช้าๆ ในขณะที่อ่านและปล่อยอารมณ์เพลิดเพลินไปกับมัน


29. เข้าครัวเฉือนความเครียด หลายคนที่ชอบเข้าครัวคงทราบดีว่าการทำอาหารนั้นสร้างความสุขอย่างหนึ่งให้กับชีวิต เรามักเพลิดเพลินเวลาค่อย ๆ หั่นผักสดเป็นจังหวะ เหมือนเล่นดนตรี ทำให้เราลืมเรื่องวุ่นวายภายนอกไปได้ชั่วขณะ แถมยังทำให้เรามีอาหารแสนอร่อย เป็นรางวัลตบท้ายอีกด้วย
 30. ยืดแข้งยืดขา คนเรานั่งทำงานนานๆ ก็ทำให้เมื่อยได้ ถึงจะนั่งโต๊ะทำงานสบาย ๆ ก็เถอะ ลองยืดแข้งยืดขาเพื่อคลายกล้ามเนื้อซะบ้าง บิดตัวไปมา หมุนศีรษะเบา ๆ ขยับแขนขาเล็กน้อย แค่นี้ก็ช่วยได้แล้ว
    จากวิธีข้างต้น คงมีส่วนช่วยให้ทุกคนคลายความเครียดลงได้บ้าง ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้สามารถทำได้เป็นกิจวัตร ฉะนั้นจะเครียดไปไย ชีวิตยังมีเรื่องให้ค้นหาความสุขอีกมาก